วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2551

กิฟฟารีนจะเชิญคนไทยมาเป็น “ผู้ใช้สินค้า”

กิฟฟารีนจะเชิญคนไทยมาเป็น “ผู้ใช้สินค้า” ไม่ใช่ “ผู้ขาย”

กิฟฟารีน
• มี Licence of Netowrk และมีการคุ้มครองลิขสิทธิ์เครือข่าย (Protection of Network) อย่างสมบูรณ์แบบ
• มีความชัดเจนในการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบรนด์ของธุรกิจและแบรนด์ของผลิตภัณฑ์
• มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกเศรษฐานะ และมีแนวทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์อันเป็นที่ยอมรับโดยสากล (มีการแสดงแหล่งที่มาของวัตถุดิบและมีผลงานวิจัยหลายผลงานรับรอง) โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ผลิตโดยบริษัทในเครือ
• มีผลประกอบการที่สามารถอธิบายถึงการเติบโตในอนาคต โดยปี 2549 มียอดจำหน่ายสูงถึง 3,400 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 18% จากปีที่ผ่านมา
• ให้ผลตอบแทนคืนกลับแก่นักธุรกิจสูงที่สุดในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายถึงปัจจุบันกว่า 24,00 ล้านบาท และมอบรายได้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีนกว่า 9,500 ล้านบาท (ณ มิย. 2550)
• ได้ทำการเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าในส่วนของเงินปันผลแทนนักธุรกิจ
• สร้างโอกาสอันเป็นไปได้จริงของมรดกตกทอดที่มอบให้แก่ทายาทนักธุรกิจเครือข่าย
• มีระบบสนับสนุนทางการตลาดที่เปี่ยมประสิทธิภาพ เช่น -สถาบันพัฒนานักธุรกิจอิสระกิฟฟารีน
- ศูนย์ธุรกิจพร้อมห้องประชุมกว่า 94 สาขา เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของนักธุรกิจทั่วประเทศ
- การแสดงผลการตรวจสอบคุณภาพเครือข่าย (Network Monitoring) เพื่อให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถ ตรวจสอบวิเคราะห์และสามารถติดตามคุณภาพของเครือข่ายได้ จึงทำให้นักธุรกิจกิฟฟารีนประสบความสำเร็จโดยมีต้นทุนในการทำงานที่น้อยที่สุด
กิฟฟารีน มีการจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพมาตรฐานสากลในราคาที่ยุติธรรมกว่า 2,000 รายการ ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ สามารถซื้อใช้และซื้อซ้ำได้ตลอดไป อันเป็นที่มาของรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืนและเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาททางธุรกิจอย่างแท้จริง
เนื่องจากธุรกิจกิฟฟารีนเป็นธุรกิจที่มีการแนะนำต่อๆกัน ดังนั้น ผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมธุรกิจจะต้องมี “upline” หรือ “ผู้แนะนำ” ที่เป็นนักธุรกิจกิฟฟารีนอยู่แล้ว การสมัครจึงถือว่าสมบูรณ์
ผู้แนะนำ คือ ผู้ที่มอบแนวทาง รวมทั้งช่วยเหลือในระยะต้นของการดำเนินธุรกิจ เพื่อท่านจะได้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการขยายงาน อีกทั้งยังช่วยประคับประคองท่านให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น ท่านผู้มีเกียรติจะต้องเลือกผู้แนะนำด้วยตนเอง โดยพิจารณาอย่างดีที่สุดจากผู้นำกิฟฟารีนที่มีเจตทัศนคติ อุปนิสัย และภูมิลำเนาใกล้เคียงกับตัวท่าน และท่านสามารถพบผู้แนะนำกิฟฟารีนได้ที่งานประชุมของบริษัทฯ หรือกิจกรรมอื่นๆของกิฟฟารีน
เมื่อเลือกผู้แนะนำ และสมัครเป็นนักธุรกิจของกิฟฟารีนแล้ว ท่านไม่ควรเปลี่ยนแปลงผู้แนะนำ เพราะนี่คือจรรยาบรรณที่สำคัญที่สุดของธุรกิจขายตรงหลายชั้น
โดยสิ่งที่จะสร้างความสำเร็จให้ท่านผู้มีเกียรติได้ดีที่สุด คือ การมีเป้าหมายที่ชัดเจน สำหรับอนาคตที่ท่านต้องการ มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีวิธีการทำงานที่ถูกต้อง และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเอง

กิฟฟารีนจะเชิญคนไทยมาเป็น “ผู้ใช้สินค้า” ไม่ใช่ “ผู้ขาย”

กิฟฟารีน
• มี Licence of Netowrk และมีการคุ้มครองลิขสิทธิ์เครือข่าย (Protection of Network) อย่างสมบูรณ์แบบ
• มีความชัดเจนในการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบรนด์ของธุรกิจและแบรนด์ของผลิตภัณฑ์
• มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกเศรษฐานะ และมีแนวทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์อันเป็นที่ยอมรับโดยสากล (มีการแสดงแหล่งที่มาของวัตถุดิบและมีผลงานวิจัยหลายผลงานรับรอง) โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ผลิตโดยบริษัทในเครือ
• มีผลประกอบการที่สามารถอธิบายถึงการเติบโตในอนาคต โดยปี 2549 มียอดจำหน่ายสูงถึง 3,400 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 18% จากปีที่ผ่านมา
• ให้ผลตอบแทนคืนกลับแก่นักธุรกิจสูงที่สุดในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายถึงปัจจุบันกว่า 24,00 ล้านบาท และมอบรายได้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีนกว่า 9,500 ล้านบาท (ณ มิย. 2550)
• ได้ทำการเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าในส่วนของเงินปันผลแทนนักธุรกิจ
• สร้างโอกาสอันเป็นไปได้จริงของมรดกตกทอดที่มอบให้แก่ทายาทนักธุรกิจเครือข่าย
• มีระบบสนับสนุนทางการตลาดที่เปี่ยมประสิทธิภาพ เช่น -สถาบันพัฒนานักธุรกิจอิสระกิฟฟารีน
- ศูนย์ธุรกิจพร้อมห้องประชุมกว่า 94 สาขา เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของนักธุรกิจทั่วประเทศ
- การแสดงผลการตรวจสอบคุณภาพเครือข่าย (Network Monitoring) เพื่อให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถ ตรวจสอบวิเคราะห์และสามารถติดตามคุณภาพของเครือข่ายได้ จึงทำให้นักธุรกิจกิฟฟารีนประสบความสำเร็จโดยมีต้นทุนในการทำงานที่น้อยที่สุด
กิฟฟารีน มีการจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพมาตรฐานสากลในราคาที่ยุติธรรมกว่า 2,000 รายการ ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ สามารถซื้อใช้และซื้อซ้ำได้ตลอดไป อันเป็นที่มาของรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืนและเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาททางธุรกิจอย่างแท้จริง
เนื่องจากธุรกิจกิฟฟารีนเป็นธุรกิจที่มีการแนะนำต่อๆกัน ดังนั้น ผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมธุรกิจจะต้องมี “upline” หรือ “ผู้แนะนำ” ที่เป็นนักธุรกิจกิฟฟารีนอยู่แล้ว การสมัครจึงถือว่าสมบูรณ์
ผู้แนะนำ คือ ผู้ที่มอบแนวทาง รวมทั้งช่วยเหลือในระยะต้นของการดำเนินธุรกิจ เพื่อท่านจะได้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการขยายงาน อีกทั้งยังช่วยประคับประคองท่านให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น ท่านผู้มีเกียรติจะต้องเลือกผู้แนะนำด้วยตนเอง โดยพิจารณาอย่างดีที่สุดจากผู้นำกิฟฟารีนที่มีเจตทัศนคติ อุปนิสัย และภูมิลำเนาใกล้เคียงกับตัวท่าน และท่านสามารถพบผู้แนะนำกิฟฟารีนได้ที่งานประชุมของบริษัทฯ หรือกิจกรรมอื่นๆของกิฟฟารีน
เมื่อเลือกผู้แนะนำ และสมัครเป็นนักธุรกิจของกิฟฟารีนแล้ว ท่านไม่ควรเปลี่ยนแปลงผู้แนะนำ เพราะนี่คือจรรยาบรรณที่สำคัญที่สุดของธุรกิจขายตรงหลายชั้น
โดยสิ่งที่จะสร้างความสำเร็จให้ท่านผู้มีเกียรติได้ดีที่สุด คือ การมีเป้าหมายที่ชัดเจน สำหรับอนาคตที่ท่านต้องการ มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีวิธีการทำงานที่ถูกต้อง และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเอง

กิฟฟารีนจะเชิญคนไทยมาเป็น “ผู้ใช้สินค้า” ไม่ใช่ “ผู้ขาย”

กิฟฟารีน
• มี Licence of Netowrk และมีการคุ้มครองลิขสิทธิ์เครือข่าย (Protection of Network) อย่างสมบูรณ์แบบ
• มีความชัดเจนในการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบรนด์ของธุรกิจและแบรนด์ของผลิตภัณฑ์
• มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกเศรษฐานะ และมีแนวทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์อันเป็นที่ยอมรับโดยสากล (มีการแสดงแหล่งที่มาของวัตถุดิบและมีผลงานวิจัยหลายผลงานรับรอง) โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ผลิตโดยบริษัทในเครือ
• มีผลประกอบการที่สามารถอธิบายถึงการเติบโตในอนาคต โดยปี 2549 มียอดจำหน่ายสูงถึง 3,400 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 18% จากปีที่ผ่านมา
• ให้ผลตอบแทนคืนกลับแก่นักธุรกิจสูงที่สุดในประเทศไทย โดยมียอดจำหน่ายถึงปัจจุบันกว่า 24,00 ล้านบาท และมอบรายได้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีนกว่า 9,500 ล้านบาท (ณ มิย. 2550)
• ได้ทำการเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าในส่วนของเงินปันผลแทนนักธุรกิจ
• สร้างโอกาสอันเป็นไปได้จริงของมรดกตกทอดที่มอบให้แก่ทายาทนักธุรกิจเครือข่าย
• มีระบบสนับสนุนทางการตลาดที่เปี่ยมประสิทธิภาพ เช่น -สถาบันพัฒนานักธุรกิจอิสระกิฟฟารีน
- ศูนย์ธุรกิจพร้อมห้องประชุมกว่า 94 สาขา เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของนักธุรกิจทั่วประเทศ
- การแสดงผลการตรวจสอบคุณภาพเครือข่าย (Network Monitoring) เพื่อให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถ ตรวจสอบวิเคราะห์และสามารถติดตามคุณภาพของเครือข่ายได้ จึงทำให้นักธุรกิจกิฟฟารีนประสบความสำเร็จโดยมีต้นทุนในการทำงานที่น้อยที่สุด
กิฟฟารีน มีการจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพมาตรฐานสากลในราคาที่ยุติธรรมกว่า 2,000 รายการ ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ สามารถซื้อใช้และซื้อซ้ำได้ตลอดไป อันเป็นที่มาของรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืนและเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาททางธุรกิจอย่างแท้จริง
เนื่องจากธุรกิจกิฟฟารีนเป็นธุรกิจที่มีการแนะนำต่อๆกัน ดังนั้น ผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมธุรกิจจะต้องมี “upline” หรือ “ผู้แนะนำ” ที่เป็นนักธุรกิจกิฟฟารีนอยู่แล้ว การสมัครจึงถือว่าสมบูรณ์
ผู้แนะนำ คือ ผู้ที่มอบแนวทาง รวมทั้งช่วยเหลือในระยะต้นของการดำเนินธุรกิจ เพื่อท่านจะได้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการขยายงาน อีกทั้งยังช่วยประคับประคองท่านให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น ท่านผู้มีเกียรติจะต้องเลือกผู้แนะนำด้วยตนเอง โดยพิจารณาอย่างดีที่สุดจากผู้นำกิฟฟารีนที่มีเจตทัศนคติ อุปนิสัย และภูมิลำเนาใกล้เคียงกับตัวท่าน และท่านสามารถพบผู้แนะนำกิฟฟารีนได้ที่งานประชุมของบริษัทฯ หรือกิจกรรมอื่นๆของกิฟฟารีน
เมื่อเลือกผู้แนะนำ และสมัครเป็นนักธุรกิจของกิฟฟารีนแล้ว ท่านไม่ควรเปลี่ยนแปลงผู้แนะนำ เพราะนี่คือจรรยาบรรณที่สำคัญที่สุดของธุรกิจขายตรงหลายชั้น
โดยสิ่งที่จะสร้างความสำเร็จให้ท่านผู้มีเกียรติได้ดีที่สุด คือ การมีเป้าหมายที่ชัดเจน สำหรับอนาคตที่ท่านต้องการ มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีวิธีการทำงานที่ถูกต้อง และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเอง