วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2551

ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง

ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง

สินค้าเกษตร

เกษตรกรรม ยังเป็นอาชีพหลักของประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ปัญหาของเกษตรกรก็คือ ความต้องการเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต ป้องกัน กำจัดโรค และแมลงศัตรูพืช และปัญหาการรบกวนของวัชพืช กิฟฟารีน มองเห็นและเข้าใจในปัญหาของเกษตรกร จึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ในการบำรุงพืชและเพิ่มผลผลิต ป้องกัน กำจัดศัตรูพืช ทั้งโรคและวัชพืช ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ความเข้มข้นเต็มเปอร์เซนต์ และตรงตามฉลากระบุ อีกทั้งมีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอดเวลา
กิฟฟารีน เกรทกรีน


คุณสมบัติ สภาพอากาศที่ร้อน อุณหภูมิที่สูง กระแสลมแรง และฤดูกาลที่แปรปรวน ส่งเสริมให้การแพร่ระบาดของศัตรูพืชเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการลดการสูญเสียของสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และปุ๋ยสภาพอากาศที่ร้อน อุณหภูมิที่สูง กระแสลมแรง และฤดูกาลที่แปรปรวน ส่งเสริมให้การแพร่ระบาดของศัตรูพืชเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการลดการสูญเสียของสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และปุ๋ยเคมีที่ฉีดพ่นทางใบ การใช้สารเสริมประสิทธิภาพผสมเข้าใบในถังพ่นสารเคมี จะเป็นการเสริมคุณสมบัติของสารเคมีที่ผสมนั้นๆ ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
วิธีการใช้งาน
วิธีผสม : 1. เติมน้ำลงในถังผสมยา 2. เติมเกรทกรีน หรือ เกรทกรีน พลัส ลงในถังแล้วผสมให้เข้ากัน 3. เติมสารกำจัดแมลงและเชื้อรา ตามคำแนะนำของสารแต่ละชนิด หากต้องการเพียงกำจัดวัชพืช ให้ใช้เกรทกรีนเท่านั้น
หมายเหตุ
* ให้ใช้เกรทกรีน หรือเกรทกรีน พลัส เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น * เกรทกรีน และเกรทกรีน พลัส ไม่ใช่ปุ๋ย แต่เป็นสารเสริมประสิทธิภาพของสารเคมี ที่นำมาผสมฉีดพ่นทางใบ และในเกรทกรีน พลัส จะผสมสารเพิ่มการเจริญเติบโตและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อพืชด้วย
กิฟฟารีน เกรทกรีน พลัส


คุณสมบัติ สภาพอากาศที่ร้อน อุณหภูมิที่สูง กระแสลมแรง และฤดูกาลที่แปรปรวน ส่งเสริมให้การแพสภาพอากาศที่ร้อน อุณหภูมิที่สูง กระแสลมแรง และฤดูกาลที่แปรปรวน ส่งเสริมให้การแพร่ระบาดของศัตรูพืชเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการลดการสูญเสียของสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และปุ๋ยเคมีที่ฉีดพ่นทางใบ การใช้สารเสริมประสิทธิภาพผสมเข้าใบในถังพ่นสารเคมี จะเป็นการเสริมคุณสมบัติของสารเคมีที่ผสมนั้นๆ ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
วิธีการใช้งาน
วิธีผสม : 1. เติมน้ำลงในถังผสมยา 2. เติมเกรทกรีน หรือ เกรทกรีน พลัส ลงในถังแล้วผสมให้เข้ากัน 3. เติมสารกำจัดแมลงและเชื้อรา ตามคำแนะนำของสารแต่ละชนิด หากต้องการเพียงกำจัดวัชพืช ให้ใช้เกรทกรีนเท่านั้น
หมายเหตุ
* ให้ใช้เกรทกรีน หรือเกรทกรีน พลัส เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น * เกรทกรีน และเกรทกรีน พลัส ไม่ใช่ปุ๋ย แต่เป็นสารเสริมประสิทธิภาพของสารเคมี ที่นำมาผสมฉีดพ่นทางใบ และในเกรทกรีน พลัส จะผสมสารเพิ่มการเจริญเติบโตและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อพืชด้วย
กิฟฟารีน ท็อป-เอ็น 30-0-0


ท็อปเอ็น - คือ สุดยอดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ปฏิวัติรูปแบบของการใช้ปุ๋ยทางใบ - คือ ไนโตรเจนที่อยู่ในรูปของไนโตรเจนที่ปลดปล่อยต่อเนื่อง (Slow Release) สามารถปลดปล่อยไนโตรเจนได้อย่างยาวนาน ในจำนวนที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปและต่อเนื่อง พืชจึงสามารถใช้ไนโตรเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเพียงพอ ต่อเนื่องตามระยะที่พืชต้องการ กิฟฟารีน ท็อป-เอ็น 30-0-0 คือไนโตรเจนในรูปของไตรอะโซน ค่อยๆ แตกตัวให้ไนโตรเจนแก่พืช ช่วยลดปัญหาการสะสม ไนเตรต หรือ ไนโตรเจนในดินหรือพืช ช่วยในการรักษาสภาพแวดล้อม สามารถใช้ได้ทั้งทางใบและทางดินตามระบบน้ำ(Fertigation) หรือการปลูกพืชในสารละลาย (Hydroponic)
วิธีการใช้งาน
สำหรับไม้ผล เช่น ส้ม เงาะ ลำไย ลางสาด ลิ้นจี่ มะม่วง กระท้อน ฯลฯ ใช้กิฟฟารีน ท็อป-เอ็น 30-0-0 ประมาณ 2 ครั้ง โดยครั้งแรก จะใช้เมื่อติดผลใหม่ๆ ในอัตรา 100 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว โดยผสมโบโรแคลและแม็กก้าซิงค์ และฉีดซ้ำอีกครั้ง หลังจากการฉีดครั้งแรกแล้ว ประมาณ 1 เดือน สำหรับไม้ดอก ไม้ประดับ เช่น กล้วยไม้ ฯลฯ * ใช้กิฟฟารีน ท็อป-เอ็น 30-0-0 ในอัตรา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเดือนละ 1 ครั้ง โดยใช้ร่วมกับโบโรแคล แม็กก้าซิงค์ แมกนีเซีย หรือกิฟฟารีน ไอออน สำหรับผักกินใบ เช่น คะน้า กวางตุ้ง ผักชี ต้นหอม คื่นไช้ ฯลฯ * ใช้กิฟฟารีน ท็อป-เอ็น 30-0-0 ในอัตรา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุกๆ 15 วัน โดยใช้ร่วมกับโบโรแคล แม็กก้าซิงค์ แมกนีเซีย หรือกิฟฟารีน ไอออน สำหรับพืชไร่ เช่น ข้าว ข้าวโพด ถั่วต่างๆ (ไม่แนะนำให้ใช้กับถั่วลิสง) สับปะรด อ้อย มะเขือเทศ พรก แตงโม ฯลฯ * ใช้กิฟฟารีน ท็อป-เอ็น 30-0-0 ในอัตรา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุกๆ 15 วัน โดยใช้ร่วมกับโบโรแคล แม็กก้าซิงค์ แมกนีเซีย หรือกิฟฟารีน ไอออน โดยฉีดพ่น 1-2 ครั้ง ทิ้งระยะห่างกันประมาณ 15 วันในช่วงต้นของการเจริญเติบโต
หมายเหตุ
ควรใช้อย่างระมัดระวังกับพืชผักที่ลงหัว หรือกินหัว หรือผีกที่เข้าห่อ เช่น กะหล่ำปลี หัวไชเท้า หัวหอม กระเทียม มันเทศ เผือก เพราะอาจทำให้การลงหัวไม่ดี โดยให้ใช้ได้ 1-2 ครั้งเท่านั้น ในช่วงต้นของการเจริญเติบโต

กิฟฟารีน ปุ๋ยเกล็ด โกรแม็กซ์ 30-10-10


เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาสำหรับการเกษตรแผนใหม่ เป็นปุ๋ยที่ใช้ได้ทั้งทางรากและทางใบหรือให้ทางระบบน้ำ (Fertigation) ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ละลายน้ำได้ 100% ไม่มีกาก จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะติดหัวฉีด หรือเครื่องพ่นยา ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ เมื่อใช้ฉีดพ่นทางใบ เมื่อหยดน้ำยา(ปุ๋ย) ลงดินพืชสามารถดูดใช้ได้ทางราก ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์จึงสามารถถูกใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ไม่สูญเสีย ที่สำคัญที่สุด ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ ผลิตจากวัตถุดิบที่ปราศจากคลอไรด์ (CL) ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ จึงสามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิดโดยไม่เป็นพิษ โดยเฉพาะพืชที่ไวต่อปริมาณคลอไรด์ (Chloride Sensitive) เช่น ยาสูบ, ทุเรียน, ส้ม ฯลฯ
สูตร 30-10-10
ใช้ในระยะแรกของการเจริญเติบโต เร่งการเจริญเติบโต ทางลำต้น และใบ
กิฟฟารีน ปุ๋ยเกล็ด โกรแม็กซ์ 15-15-15


เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาสำหรับการเกษตรแผนใหม่ เป็นปุ๋ยที่ใช้ได้ทั้งทางรากและทางใบหรือให้ทางระบบน้ำ (Fertigation) ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ละลายน้ำได้ 100% ไม่มีกาก จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะติดหัวฉีด หรือเครื่องพ่นยา ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ เมื่อใช้ฉีดพ่นทางใบ เมื่อหยดน้ำยา(ปุ๋ย) ลงดินพืชสามารถดูดใช้ได้ทางราก ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์จึงสามารถถูกใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ไม่สูญเสีย ที่สำคัญที่สุด ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ ผลิตจากวัตถุดิบที่ปราศจากคลอไรด์ (CL) ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ จึงสามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิดโดยไม่เป็นพิษ โดยเฉพาะพืชที่ไวต่อปริมาณคลอไรด์ (Chloride Sensitive) เช่น ยาสูบ, ทุเรียน, ส้ม ฯลฯ
สูตร 15-15-15
เร่งการเจริญเติบโตทางด้านของลำต้น ใบ ดอก และผล

กิฟฟารีน ปุ๋ยเกล็ด โกรแม็กซ์ 10-52-17


เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาสำหรับการเกษตรแผนใหม่ เป็นปุ๋ยที่ใช้ได้ทั้งทางรากและทางใบหรือให้ทางระบบน้ำ (Fertigation) ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ละลายน้ำได้ 100% ไม่มีกาก จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะติดหัวฉีด หรือเครื่องพ่นยา ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ เมื่อใช้ฉีดพ่นทางใบ เมื่อหยดน้ำยา(ปุ๋ย) ลงดินพืชสามารถดูดใช้ได้ทางราก ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์จึงสามารถถูกใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ไม่สูญเสีย ที่สำคัญที่สุด ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ ผลิตจากวัตถุดิบที่ปราศจากคลอไรด์ (CL) ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ จึงสามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิดโดยไม่เป็นพิษ โดยเฉพาะพืชที่ไวต่อปริมาณคลอไรด์ (Chloride Sensitive) เช่น ยาสูบ, ทุเรียน, ส้ม ฯลฯ
สูตร 10-52-17
หยุดการเจริญเติบโตทางด้านลำต้น, ใบ ช่วงเร่งดอก และป้องกันดอก-ผลร่วง

ปุ๋ยเกล็ด กิฟฟารีน โกรแม็กซ์ 6-20-30


เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาสำหรับการเกษตรแผนใหม่ เป็นปุ๋ยที่ใช้ได้ทั้งทางรากและทางใบหรือให้ทางระบบน้ำ (Fertigation) ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ละลายน้ำได้ 100% ไม่มีกาก จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะติดหัวฉีด หรือเครื่องพ่นยา ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ เมื่อใช้ฉีดพ่นทางใบ เมื่อหยดน้ำยา(ปุ๋ย) ลงดินพืชสามารถดูดใช้ได้ทางราก ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์จึงสามารถถูกใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ไม่สูญเสีย ที่สำคัญที่สุด ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ ผลิตจากวัตถุดิบที่ปราศจากคลอไรด์ (CL) ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ จึงสามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิดโดยไม่เป็นพิษ โดยเฉพาะพืชที่ไวต่อปริมาณคลอไรด์ (Chloride Sensitive) เช่น ยาสูบ, ทุเรียน, ส้ม ฯลฯ
สูตร 6-20-30
สูตรเร่งสี เพิ่มน้ำหนัก และความหวาน ช่วยให้สภาพของผลคงทนแข็งแรงยาวนานขึ้น

ปุ๋ยโกรแม็กซ์ สูตร 0-52-34


เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาสำหรับการเกษตรแผนใหม่ เป็นปุ๋ยที่ใช้ได้ทั้งทางรากและทางใบหรือให้ทางระบบน้ำ (Fertigation) ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ละลายน้ำได้ 100% ไม่มีกาก จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะติดหัวฉีด หรือเครื่องพ่นยา ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ เมื่อใช้ฉีดพ่นทางใบ เมื่อหยดน้ำยา(ปุ๋ย) ลงดินพืชสามารถดูดใช้ได้ทางราก ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์จึงสามารถถูกใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ไม่สูญเสีย ที่สำคัญที่สุด ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ ผลิตจากวัตถุดิบที่ปราศจากคลอไรด์ (CL) ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ จึงสามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิดโดยไม่เป็นพิษ โดยเฉพาะพืชที่ไวต่อปริมาณคลอไรด์ (Chloride Sensitive) เช่น ยาสูบ, ทุเรียน, ส้ม ฯลฯ
สูตร 0-52-34
โมโนโพแทสเซี่ยมฟอสเฟต สูตรยับยั้งการแตกใบอ่อน สะสมอาหารเพื่อการออกดอก

ปุ๋ยกล้วยไม้ โกรแม็กซ์


มีธาตุรองและธาตุเสริม เช่น Ca, Mg, Cu, Mn, Fe, Zn, B, Mo และวิตามิน บี 1 (Thiamine) เป็นปุ๋ยที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อเป็นปุ๋ยสำหรับกล้วยไม้โดยเฉพาะสูตร 20-20-20 หรือสูตรเสมอ บำรุงทุกส่วน เร่งให้ก้านช่อดอกยาว ดอกโต สีเข้ม สีสวย กลีบดอกทนทาน เร่งต้น เร่งใบ โดยที่สูตรเสมอจะเร่งรากด้วย วิตามิน บี 1 โมโนไนเตรท จึงปราศจากความเป็นพิษต่อกล้วยไม้โดยสิ้นเชิง และมีธาตุรอง, ธาตุเสริมครบครันตามความต้องการของกล้วยไม้ ในรูปของแคทไอออน อีดีทีเอ ละลายน้ำง่าย ละลายน้ำมากกว่า และละลายน้ำ 100% ไม่อุดตันหัวฉีดหรือระบบน้ำ กล้วยไม้สวยงาม ต้นดี รากขยาย ดอกใหญ่ สีสด ช่อดอกยาว ด้วยปุ๋ยโกรแม็กซ์สูตรเสมอ 20-20-20 นอกจากนี้ควรเร่งดอกกล้วยไม้ด้วยปุ๋ยโกรแม็กซ์สูตร 10-52-17 เติมสีเข้มข้นเป็นครั้งคราวด้วยปุ๋ยโกรแม็กซ์ 6-20-30
อัตราการใช้ : 70 - 100 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร

อาหารเสริมสำหรับพืช โบโรแคล


อาหารเสริมสำหรับพืช โบโรแคล ช่วยป้องกันดอก-ผลร่วง ลดการแตกของผลไม้ ทำให้พืชแข็งแรง และช่วยในการออกดอกและขยายราก โบโรแคลประกอบด้วย แคลเซี่ยม 7 % และโบรอน 2 % ผลิตโดยใช้แคลเซี่ยม ในรูปของแคลเซี่ยม คีเลท และโบรอน ในรูปของโบรอนที่ละลายน้ำได้ 100 % คือ โซเดียม บอเรท ไม่ใช่กรดบอริกหรือผงโบแร็กซ์
ปริมาณการใช้ : 5 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร

อาหารเสริมสำหรับพืช แม็กนีเซีย


แม็กนีเซียประกอบด้วยแม็กนีเซี่ยม (Mg+++) 9.5% และไนโตรเจนรูปไนเตรท (No3-) 11% ละลายน้ำได้ 100% เหมาะสำหรับการฉีดพ่นทางใบ, ระบบน้ำ และการปลูกพืชไม่ใช้ดิน (Hydroponic) แม็กนีเซีย ช่วยเสริมความแข็งแรง เพิ่มคลอโรฟิลล์ ในการสังเคราะห์แสง ช่วยพืชในการสังเคราะห์น้ำมัน และทนต่ออากาศที่แห้งแล้งได้ดี

อาหารเสริมสำหรับพืช เม็กก้า-ซิงค์


เม็กก้า-ซิงค์ คือสังกะสี อี ที เอ (Zn-EDTA) 9.5% ซึ่งอยู่ในรูป Zn++ ละลายน้ำ 100% ไม่รวมตัวกับธาตุอื่นช่วยเพิ่มความเขียว รักษาโรคพืชที่เกิดจากการขาดสังกะสี เช่น โรคใบแก้วของส้มแก้ปัญหาการไม่ยืดตัว, ใบเล็ก ใบเบี้ยว เป็นกระจุก
อัตราการใช้ : 5 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร

ไบรท์-กรีน


แมงกานีสเข้มข้น 6.2% แมงกานีสเป็นธาตุอาหารจำเป็นที่พืชขาดไม่ได้ ถ้าขาดพืชจะเจริญเติบโตต่อไม่ได้แงกานีสเป็นธาตุที่เมื่อขาด พืชจะแสดงอาการเหลืองที่ใบ เนื่องจากการสร้างคลอโรฟิลล์ไม่สมบูรณ์ และอายุของคลอโรฟิลล์สั้น ดังนั้นถึงแม้แมงกานีสจะไม่ใช่ส่วนโครงสร้างโดยตรงของคลอโรฟิลล์ แต่การขาดแมงกานีสจึงทำให้ใบเหลืองได้ นอกจากนี้แมงกานีสยังช่วยเพิ่มอัตราการสังเคราะห์แสง ใน Photosystem II

คุณสมบัติ : ไบรท์-กรีน คือ ธาตุแมงกานีสเข้มข้น 6.2% ในรูปคีเลทชนิดน้ำ พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้จริงทั้งทางรากและส่วนใบ หรือต้น หรือผลที่มีสีเขียว ไรท์-กรีนจึงสามารถใช้ผสมน้ำฉีดพ่นทางใบ (Foliar Application) ทางระบบน้ำ (Fertigation) หรือการปลูกพืชไร้ดิน (Hydroponic) เพื่อให้แมงกานีสกับพืชเมื่อพืชแสดงอาการขาด หรือเพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิต
ประโยชน์ :
1.ช่วยยืดอายุของคลอโรฟิลล์ จึงทำให้พืชมีสีเขียวนาน
2. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงพืชปรุงอาหารได้มากขึ้น
3. ช่วยยืดอายุของใบ
4. ช่วยให้ผัก, ดอก, ผล, ผลไม้ทุกชนิดเพิ่มขนาด เพิ่มน้ำหนักได้ในช่วงวิกฤตเมื่อพืชอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์
5. ช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลผลิต
6. ช่วยให้พืชสะสมอาหารเร็วขึ้น และมากขึ้นในช่วงสะสมอาหารเพื่อออกดอก
7. ช่วยให้พืชต้นไม่โทรม
8. ช่วยแก้ปัญหาการขาดธาตุแมงกานีส
โมเด็ม


โมลิบดินั่ม : เป็นธาตุอาหารจำเป็นสำหรับพืชทุกชนิดที่ขาดไม่ได้ ถ้าขาดพืชจะไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ โมดินั่มช่วยส่งเสริมขบวนการสร้างและใช้ไนโตรเจน การสร้างปมของรากถั่ว การตรึงไนโตรเจนจากอากาศ และการเปลี่ยนรูปไนโตรเจน เพื่อให้อยู่ในรูปที่พืชใช้งานได้

คุณสมบัติ : โมเด็ม คือธาตุโมลิบดินั่ม ความเข้มข้น 4.5% อยู่ในรูปคีเลทของเหลวใสมีความบริสุทธิ์สูง ที่พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้จริง สามารถดูดซึมผ่านผิวใบ หรือส่วนของลำต้นที่มีสีเขียวได้ดี จึงสามารถผสมน้ำฉีดพ่นทางใบ (Follar applicalton) พ่นใส่ผลโดยตรง ผสมน้ำให้ทางระบบน้ำ (Fertigation) การปลูกพืชโดยไร้ดิน(Hydroponic) เพื่อให้โมลิบดินั่มกับพืชเวลาที่พืชขาดหรือเพิ่มเติมผลผลิต ในระยะที่พืชต้องการโมลิบดินั่มเป็นพิเศษ

ประโยชน์โมเด็มจะช่วยให้พืช

1. สร้างปมในพืชตระกูลถั่ว

2. สร้างและใช้ไนโตรเจนได้ดี

3. ขยายยอด ขยายผล

4. สร้างเสริมการทำงานของ Bacteria Nitrosomonas และ Nitrococcus

5. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก

6. ช่วยแก้ไขการขาดธาตุโมลิบดินั่ม

7. เพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิต

กิฟฟารีน ไอออน


กิฟฟารีน ไอรอน จะให้ธาตุเหล็กกับพืช เพื่อช่วยให้พืชเจริญเติบโต แข็งแรง ช่วยสร้างคลอโรฟิลด์ แก้อาการยอดเหลือง เนื่องจากการขาดเหล็ก ช่วยในขบวนการหายใจ การสังเคราะห์ โปรตีน และเร่งปฏิกิริยาเคมีต่างๆ ในพืช ทำให้พืชแข็งแรง ใบเขียวเข้มเป็นมัน ให้ผลผลิตสูง และมีคุณภาพเยี่ยม
วิธีการใช้งาน
กิฟฟารีน ไอออน ใช้ได้กับพืชทุกชนิด เพื่อรักษาอาการขาดธาตุเหล็ก โดยเฉพาะพืชที่ปลูกในดินด่าง หรือดินที่มีค่า pH สูง โดยฉีดทุกระยะการเจริญเติบโต หรือใช้เพื่อเสริมธาตุเหล็กในระยะที่พืชต้องการสูง เช่นระยะแตกใบอ่อน หรือระยะก่อนเก็บเกี่ยว ในระยะแตกใบอ่อนนั้น ใช้ฉีดประมาณ 1-2 ครั้ง ในอัตรา 1-3 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ในกรณีที่ดินขาดธาตุเหล็ก เช่น ดินมีปูนมาก จะฉีดในอัตรา 1-3 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุกๆ 7 -10 วัน ส่วนพืชผักและไม้ดอกนั้น จะฉีดพ่น 1-3 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุกๆ 15 วัน
หมายเหตุ
กิฟฟารีน ไอออน เป็นธาตุเหล็ก ธาตุเดี่ยว ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ ไม่สามารถทดแทนธาตุอาหารอื่นได้ ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ฉีดร่วมกับปุ๋ยโกรแม็กซ์

เจอร์มิเนท


กรดอมิโน 19 ชนิด ในรูปของกรดอมิโนอิสระ (L-amino acid) ที่สามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์ผิงอย่างรวดเร็วและเป็นจำนวนมาก พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องย่อยสลายอีก เมื่อพืชดูดรับเจอร์มิเนทจะถูกนำไปใช้ทันทีเพื่อ
- เพื่อช่วยในการงอกของเมล็ด โดยใช้แช่เมล็ดและชุบหน่อท่อนพันธุ์
- เพื่อกระตุ้นการแตกยอดใหม่ การแตกดอก และการติดผล
- เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตขิงพืช
นอกจากหน้าที่หลักๆ แล้ว เจอร์มิเนท (Germinate) ยังช่วยพืชในกระบวนการสังเคราะห์แสง และกระบวนการหายใจด้วยเจอร์มิเนท (Germinate) เป็นสารชีวภาพ 100% ที่ผลิตจากพืชโดยเทคโนโลยีขั้นสูง ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม

สารเคมีป้องกันและกำจัดราโรคพืช ซิงโค-ไซท์


สารเคมีป้องกันและกำจัดโรคพืชชนิดสัมผัส ไม่เคลื่อนย้าย มีชื่อสามัญว่า Ethylene bisdithiocarbamate (EBDC) หรือแมนโคเซป สามารถใช้ควบคุมและกำจัดเชื้อราได้อย่างกว้างขวางในพืชปลูกหลายชนิด เช่น โรคแอนแทรกโนสในมะม่วง โรคใบจุดสีม่วงในหอม และกระเทียม โรคราสนิมในกล้วยไม้ โรคตากบ ฯลฯ
ซิงค์โคไซด์ใช้ได้กับพืชมากมายตั้งแต่องุ่น ข้าวโพด มะเขือเทศ กล้วย มันฝรั่ง ข้าว ข้าวสาลี พืชผัก และอื่นๆ อีกมากมาย หากใช้ซิงโคไซด์ ตามคำแนะนำที่กำหนดจะไม่เป็นพิษต่อแมลง ที่เป็นประโยชน์ต่อพืชหรือรบกวนการผสมเกสรของพืชที่ปลูกเลย
สารเคมีป้องกันและกำจัดราโรคพืช ฟารีน เอส ซี


คุณสมบัติ
- เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพจากประเทศเบลเยี่ยม
- เป็นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืชชนิดดูดซึม
- ชื่อสามัญ คาร์เบนดาซิม
- ออกฤทธิ์ป้องกันและกำจัดเชื้อราได้หลายชนิด เข้าทำลายเชื้อรา โดยการยับยั้งการแบ่งเซลของเชื้อรา
- ใช้ได้กับพืชหลายชนิด เช่น ข้าว พริก มะม่วง พืชผักต่างๆ และไม้ดอก ไม้ประดับ เป็นต้น

สารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อรา ซิลทาไซด์


สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา โรคพืชซึ่งเกิดจากเชื้อราชั้นต่ำในดิน เช่น เชื้อราไฟทอปทอร่า, ฟิวซาเรียม และสเคลอโรเทียม มีฤทธิ์ในการป้องกันกำจัดเชื้อราได้ทั้งชนิดสัมผัส และดูดซึม ใช้ได้โดยการฉีดพ่นบนดิน ทากิ่งต้น และรดน้ำลงดิน ป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า โรคเหี่ยว ชื่อสามัญคือ เมธาแลกซิล

สารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อรา ไตรค๊อป


ชีวินทรีย์ป้องกันกำจัดโรคพืช ชื่อสามัญคือ เชื้อไตรโคเดอร์มา ฮาร์เซียนั่ม ป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า โรคเหี่ยว จากเชื้อราไฟทอปทอร่า หรือเชื้อฟิวซาเรียม และสเคลอโรเทียม
สารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อรา กีฟพรี


กิฟพรี คือสารเคมีกำจัดวัชพืชในกลุ่มไดฟีนิลอีเทอร์ (Diphenyllether) มีชื่อสามัญว่า อ๊อกซี่ฟลูออเฟน (Oxyfluorfen) ใช้เพื่อควบคุมวัชพืชใบกว้าง แบบก่อนงอก (Pre emergence) เช่น ผักเบี้ยใหญ่, ผักโขมหนาม, ผักโขมสาบแร้ง, โทงเทง, กะเม็ง ใช้ได้กับหอมหัวใหญ่, หอมแดง, กระเทียม และพืชที่ย้ายกล้าปลูก เช่น ยาสูบ พริก แตงต่างๆ พืชตระกูลกะหล่ำ
วิธีการใช้และอัตราการใช้
ใช้ฉีดพ่นในแปลงที่ต้องเตรียมดินเรียบร้อย ฉีดพ่นก่อนทำการปลูก 1-2 วัน โดยใช้อัตรา 30-50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร และใช้น้ำ 80 ลิตร (4 ปิ๊ป)
กิฟฟารีน ชริมพ์ แอทแทรก


กิฟฟารีน ชริมพ์ แอทแทรก สารคาว สารเคลือบ สารดึงดูด และกระตุ้นการกินอาหารของกุ้ง ชริมพ์ แอทแทรก คือ สารเสริมสูตรพิเศษ ประกอบด้วยวัตถุดิบ ซึ่งสกัดจากสิ่งที่มีชีวิต เช่น หัวกุ้ง นอกจากนี้ยังเสริมคุณค่าเลซิติน โปรตีน และแร่ธาตุที่จำเป็นอีกด้วย
วิธีการใช้งาน
ขนาดและวิธีการใช้ ผสมคลุกเคล้า ชริมพ์ แอทแทรก กับอาหารกุ้งให้ทั่ว ในอัตราส่วน 20 ซีซี ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม นำไปผึ่งลมให้แห้ง 15-30 นาที ก่อนนำอาหารไปหว่าน

กิฟฟารีน เอ็นซายม์-แบค


จุลินทรีย์และเอ็นซายม์ สำหรับกำจัดของเสียแก๊สพิษในบ่อกุ้ง ไม่แกว่งพี-เอช ใช้ง่ายไม่ต้องเลี้ยงเชื้อปฏิกิริยา เคมีที่มีความปลอดภัยทำให้กุ้งไม่งอเกร็งเหมือนการใช้จุลินทรีย์ทั่วไป ใช้น้อยเมื่อเปรียบเทียบการใช้ต่อพื้นที่ต่อไร่หรือต่อครอปการเลี้ยง

ส่วนประกอบ
1. จุลินทรีย์ มีจำนวน 10 พันล้านใน 1 กรัม (10x1010)
- เซลลูโลโมแนส (Cellulomonas sp)
- ไนโตรโซโมแนส (Nitrosomonas sp)
- ไนโตรแบคเตอร์ (Nitrobacter sp)
- แอโรแบคเตอร์ (Aerobacter sp)
2. เอ็นซายม์ (Extracellular enzyme)
- เอ็นซายม์ โปรทีเอส (Enzyme Protieases)
- เอ็นซายม์ อมัยเลส (Enzyme Amylases)
- เอ็นซายม์ ไลเปส (Enzyme Lipases)
- เอ็นซายม์ เฮมิเซลลูเลส (Enzyme Hemicellulases)
- เอ็นซายม์ แลคเทส (Enzyme Lactases)
สรรพคุณ :
ใช้เป็นประจำในระบบการจัดการฟาร์ม จะทำให้พื้นบ่อไม่เกิดแก๊สพิษ สีน้ำแข็ง ไม่ล้ม (ดร๊อป) น้ำในบ่อและยอจะสะอาด ไม่เกิดขี้แดด สุขภาพกุ้งจะดี แข็งแรงและไม่เหม็นโคลน ทำให้เลี้ยงกุ้งได้ง่ายขึ้น
อัตราการใช้ :
เพื่อการจัดการฟาร์ม (บ่อกุ้ง) ที่ดี ควรใช้อัตรา 10-15 กรัม/ไร่ ทุกๆ 7 วัน ตั้งแต่เริ่มเลี้ยงกุ้ง ถ้าในบ่อมีขี้เลนหรือมีของเสียมากซึ่งมักเกิดขึ้นในบ่อเมื่ออายุกุ้ง 45 วันขึ้นไป ให้ใช้กิฟฟารีน เอ็นซายม์-แบค ในอัตรา 10-15 กรัมต่อไร่ ห่างกัน 5 วันก่อน และหลังจากนั้นใช้อัตราปกติ ประมาณ 20-30 กรัมต่อไร่/สัปดาห์
กิฟฟารีน ชริมพ์ พี แอล ฟีด


อาหารสำเร็จรูปสำหรับกุ้งอ่อน เช่น กุ้งอนุบาล กุ้งกั้นคอก หรือไม่กั้นคอก พัฒนาใหม่ที่ผ่านการพิสูจน์ทดลองมาแล้ว เหมาะสำหรับใช้เลี้ยงลูกกุ้งวัยอ่อน ระยะที่ 10 ถึงระยะ ที่ 15 (หลังจากเชื้อจากบ่อเพาะฟัก นำมาเลี้ยงในบ่อดิน) อุดมไปด้วยสารอาหารครบถ้วนย่อยง่ายมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก
ส่วนประกอบที่สำคัญ : ปลาป่น โปรตีนหัวกุ้ง ปลาหมึกป่น แป้งสาลี วิตามิน แร่ธาตุ สารปรุงแต่งธรรมชาติ อาหารสัตว์ และสารถนอมคุณภาพอาหารสัตว์
กิฟฟารีน พีเอช คิท


ในการเลี้ยงสัตว์น้ำทุกชนิด คุณภาพของน้ำ มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต และการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำได้ สำหรับการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ คุณภาพน้ำที่ดีที่พร้อมจะปล่อยกุ้งนั้น จะต้องมีความเป็นกรด-ด่าง หรือ พีเอช(pH) อยู่ระหว่าง 6.5-8.5 คือน้ำจะต้องมีความเป็นกรดอ่อนถึง
วิธีการใช้งาน
1. นำน้ำตัวอย่างที่ต้องการวัดค่า pH ใส่หลอดทดลองประมาณครึ่งหลอด
2. หยดน้ำยาวัดค่า pH ประมาณ 5-6 หยด ลงในหลอดน้ำที่จะทำการทดสอบ แล้วเขย่าให้เข้ากัน จะเกิดสีในน้ำ
3. เทียบของน้ำที่เกิดขึ้นกับแถบฉลากสีมาตรฐาน แล้วทำการอ่านค่าตัวเลข pH ที่มีสีใกล้เคียงกับสีน้ำที่เกิดขึ้น
4. ค่าที่อ่านได้คือค่า pH ของตัวอย่างน้ำที่วัดนั้นๆ
หมายเหตุ : หากต้องการนำไปตรวจสอบค่า pH ของดิน ให้นำดินมา 1 ส่วน เติมน้ำไปประมาณ 5 ส่วน คนให้เข้ากัน ตั้งทิ้งไว้นานประมาณ 20-30 นาที แล้วจึงรินน้ำที่ใส ใส่ในหลอดแก้ว และดำเนินการตามขั้นตอนการวัดเช่นเดียวกับการวัดค่าของน้ำ

ไม่มีความคิดเห็น: